คุณค่าแท้จริงที่รับรู้ได้ในตลาดตราสารหนี้เอเชีย

Low Guan Yi หัวหน้าฝ่ายตราสารหนี้ของ Eastspring Investments อธิบายถึงเหตุผลว่าทำไมความกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจึงเป็นมุมมองที่รวบรัด ซึ่งกลุ่มตลาดตราสารหนี้ในเอเชียได้นำเสนอมูลค่าที่ดีที่สุดภายใต้สภาพแวดล้อมขณะนี้และมีส่วนทำให้ทีมงานสามารถสร้างผลงานที่ดีได้ในปัจจุบัน

1. จากการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้น คุณยังมั่นใจในสิ่งที่เคยประเมินไว้เมื่อตอนต้นปี 2021 หรือไม่ว่าอัตราดอกเบี้ยและอัตราผลตอบแทนจะถูกจำกัด และคุณได้กำหนดระดับที่สามารถทนทานต่อความผันผวนไว้อย่างไร?

แม้ว่ามีแนวโน้มที่อัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2021 เนื่องจากผลกระทบของฐานที่ต่ำประกอบกับราคาอาหารและน้ำมันที่สูงขึ้น แต่ในมุมมองของเราสิ่งนี้จะยังคงเป็นเรื่องชั่วคราว ระดับช่องว่างของผลผลิตหรือ output gap ที่เห็นชัดจะยังคงมีอยู่ทั่วโลกซึ่งจะจำกัดขอบเขตและขนาดของราคาที่เพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของสินค้าและค่าแรง หากพิจารณานอกเหนือไปจากอุปสรรคในระยะสั้นแล้วยังพบว่ามีแรงผลักดันจากเงินเฟ้อที่ต่ำลงในเชิงโครงสร้างซึ่งเกิดขึ้นอย่างชัดเจน เช่น จำนวนประชากรสูงวัยและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เป็นต้น

เมื่อแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังไม่ได้เป็นสิ่งน่ากังวล เราจึงคิดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังคงไม่น่าจะเกิดขึ้นก่อนปี 2023 พัฒนาการในตลาดแรงงานจะเป็นจุดมุ่งเน้นสำคัญสำหรับผู้กำหนดนโยบาย ขณะที่ความแตกต่างของผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจปัจจุบัน เช่น สภาวะการผลิตภาคอุตสาหกรรมทั่วโลกที่แข็งแกร่งมีความขัดแย้งกับการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการฟื้นตัวของภาคบริการที่ซบเซา ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าธนาคารกลางที่ใช้ความระมัดระวังอยู่แล้วอาจทำผิดพลาดหากตัดสินใจดำเนินนโยบายคุมเข้มทางการเงิน ตัวอย่างเช่นธนาคารกลางสหรัฐได้ย้ำอีกครั้งถึงความมุ่งมั่นในการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้จนถึงปี 2023 ในการประชุม FOMC เดือนมีนาคม แม้ว่าจะรับรู้ถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและมีจุดเปลี่ยนสู่อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในปีนี้ เราเชื่อว่าธนาคารกลางส่วนใหญ่ในเอเชียจะทำตามเฟดด้วยการยืนนโยบายไว้เช่นเดิม

อย่างไรก็ตาม โชคไม่ดีที่อัตราผลตอบแทนแท้จริงของสหรัฐได้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วและฉับพลันจนส่งผลกระทบด้านลบต่อสินทรัพย์ประเภทตราสารหนี้ของเอเชียรวมทั้งธุรกรรมประเภท carry trades ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวก็มาพร้อมกับการเทขายสกุลเงินท้องถิ่นด้วย แต่เราไม่เชื่อว่าภาวะอ่อนแรงของตลาดตราสารหนี้เอเชียในปัจจุบันจะดำเนินต่อไปแบบยาวนานเนื่องจากเราเชื่อมั่นว่าอัตราเงินเฟ้อไม่น่าจะพุ่งขึ้นจนเกินรับมือและมุมมองที่ต่อต้านนโยบายผ่อนคลายนั้นจะเป็นเรื่องที่ผิดพลาด ในความเป็นจริงแล้วเราคิดว่าการที่อัตราผลตอบแทนมีการปรับตัวอย่างรวดเร็ว ได้ทำให้กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับผู้ลงทุนระยะยาว ด้วยเหตุนี้เราจึงได้ปรับเพิ่มมุมมอง “Overweight” ใน duration ของกองทุนตราสารหนี้เอเชียที่ถือเป็นจุดเด่นของเรา ซึ่งมีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์การลงทุนของกองทุนเหล่านั้น สิ่งนี้เป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้ว่าตลาดตราสารหนี้ในเอเชียจะสามารถสร้างผลงานได้สูงกว่าตราสารของตลาดพัฒนาแล้วเนื่องจากมีความได้เปรียบในเรื่องอัตราผลตอบแทน การที่สภาพคล่องทั่วโลกยังคงท่วมท้นความต้องการของผู้ลงทุนสำหรับอัตราผลตอบแทนในภูมิภาคจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อดูจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งขึ้นของภูมิภาคและผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในโลก

2. กลุ่มตราสารหนี้ใดในเอเชียที่นำเสนอมูลค่าน่าสนใจในปัจจุบัน?

ตราสารหนี้ภาคเอกชนสามารถสร้างผลงานได้ดีกว่าตราสารหนี้ภาครัฐในช่วงที่เกิดแรงขายพันธบัตรทั่วโลกเมื่อเร็วๆ นี้ เราคาดว่าผลตอบแทนตราสารหนี้เอกชนโดยรวมโดยเฉพาะการออกตราสารที่มีคุณภาพสูง (ไม่จำเป็นต้องเป็น investment grade) ที่มีอายุ 3-5 ปี จะยังมีความแข็งแกร่ง สามารถรับมือกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นได้ และหากพิจารณาภายในกลุ่มตราสารหนี้ภาครัฐ จะพบว่ากลุ่มตราสารอายุ 1-3 ปียังคงดีเนื่องจากมีสภาพคล่องรองรับและการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะยังคงนโยบายผ่อนคลายต่อไปจนถึงปี 2021

นอกจากนี้ ตลาดยังรับรู้แล้วถึงแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของประเทศในเอเชียส่วนใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในระยะ 12-18 เดือนข้างหน้า ซึ่งเราคิดว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ ดังนั้นเราจึงมองเห็นมูลค่าที่เกิดขึ้นในตราสารระยะสั้นของกลุ่มพันธบัตรรัฐบาลของประเทศส่วนใหญ่ในเอเชีย

เนื่องจากธนาคารกลางในเอเชียยังคงดำเนินนโยบายแบบผ่อนคลายและใช้มาตรการสนับสนุนทางการเงินอย่างเข้มข้น เราจึงคาดว่าอัตราดอกเบี้ยในเอเชียจะดีกว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐท่ามกลางอัตราผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นในภาพรวม เม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่เอเชียจะยังคงดำเนินต่อไปภายใต้สภาพแวดล้อมตลาดที่มีแนวโน้มเงินเฟ้อเร่งตัว (reflationary) และความเชื่อมั่นในการเปิดรับความเสี่ยงที่ดีขึ้น กระแสเงินเหล่านี้บางส่วนอาจมุ่งไปยังตลาดตราสารหนี้ในเอเชีย ขณะความต้องการเชิงโครงสร้างในการปรับ duration ตราสารหนี้ของผู้ลงทุนระยะยาวในประเทศ อาทิกองทุนบำนาญและบริษัทประกัน จะยังคงช่วยสนับสนุนผลงานของตราสารหนี้ระยะยาว

เรายังคิดว่าตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนสูง หรือ high yield bonds (HY) ของเอเชียจะยังคงมีคาดการณ์อัตราผลตอบแทนแบบปรับความเสี่ยงที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับตลาด HY อื่นๆ เช่น US HY หรือ European HY อัตราการผิดนัดชำระหนี้คาดการณ์ซึ่งต่ำลงในปีนี้ยังชี้ให้เห็นว่าสเปรดที่ตึงตัวยังเพียงพอที่จะชดเชยความเสี่ยงให้กับผู้ลงทุนได้ นอกจากนี้ Asian HY ส่วนใหญ่ซึ่งเป็นตราสารประเภทเครดิตของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีนก็กำลังมีข้อจำกัดจากการปฏิรูปกฎเกณฑ์ที่เรียกว่า “เส้นสีแดงสามเส้น” (three red lines) เนื่องจากการก่อหนี้มากเกินไป ปัจจัยนี้ควบคู่กับการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้นจึงน่าจะช่วยสนับสนุนปัจจัยพื้นฐานในฝั่งของผู้กู้ในเอเชียได้ในระยะสั้นจนถึงระยะปานกลาง

การผิดนัดชำระหนี้ในตลาดออนชอร์ที่เพิ่มขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ และการคุมเข้มสภาพคล่องในตราสารออนชอร์ของจีนอาจเป็นชนวนปะทุความผันผวนรอบใหม่ แต่เรามองว่าสภาวะดังกล่าวเป็นโอกาสในการเข้าซื้อสำหรับผู้ลงทุนระยะยาว โดยต้องตระหนักด้วยว่าการคัดเลือกเครดิตนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ความสามารถในการแยกแยะความแตกต่างระหว่างเครดิตและการมุ่งคัดเลือกตราสารเป็นสิ่งสำคัญในระยะปัจจุบันของวัฏจักรทางเครดิต ซึ่งจะได้เห็นจากบางบริษัทที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคเมื่อมาตรการสนับสนุนด้านสภาพคล่องที่ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2020 เริ่มลดขนาดลง

3. Eastspring เป็นรายแรกที่เปิดตัวกองทุนตราสารหนี้ประเภท ESG มุ่งเน้นเอเชีย คำถามก็คือกองทุนนี้จะสามารถช่วยประสานบทบาทของคุณในฐานะนักเคลื่อนไหวด้าน ESG ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในตัวผู้ออกหลักทรัพย์ได้หรือไม่?

ปี 2020 นับเป็นปีที่โดดเด่นสำหรับกระแสการลงทุนด้าน ESG โดย JP Morgan รายงานเมื่อเดือนมกราคมว่าสินทรัพย์ด้าน ESG ทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 7.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ มากกว่าถึง 2 เท่าของกลุ่มสินทรัพย์ประเภทเดียวกันที่ประเมินไว้เมื่อปี 2019 ซึ่งมีขนาด 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ การออกตราสารหนี้ยั่งยืนซึ่งรวมถึงพันธบัตรสีเขียว (green bonds) ตราสารหนี้เพื่อสังคม (social bonds) และด้านความยั่งยืน (sustainability bonds) ยังคงเติบโตอย่างรวดเร็วท่ามกลางความต้องการที่แข็งแกร่งจากผู้ลงทุนที่ตระหนักในเรื่อง ESG

สำหรับบทบาทของเราในสภาวะการเปลี่ยนแปลงของโลกสู่การลงทุนที่รับผิดชอบต่อสังคม มีความแตกต่างที่สำคัญเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของผู้ออกตราสารระหว่างการลงทุนในตราสารหนี้และหุ้น เช่น ผู้ลงทุนตราสารหนี้ที่ไม่มีสิทธิออกเสียง อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้หมายความว่าเราไม่สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการกำหนดพฤติกรรมขององค์กรได้ สิ่งที่เราปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอบางส่วนยังรวมถึงการระบุความเสี่ยงด้าน ESG ที่เป็นสาระสำคัญในกระบวนการวิเคราะห์ของเรา ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงความเสี่ยงเหล่านั้นต่อผู้ออกตราสารและให้ถือปฏิบัติตามในแต่ละเรื่องที่เป็นความคาดหวังเพื่อจัดการกับประเด็นที่เป็นข้อกังวลต่างๆ

เราสร้างข้อได้เปรียบจากการที่สมาชิกที่ร่วมทีมกับเรามีข้อมูลเพียบพร้อมในการวิเคราะห์เครดิตซึ่งได้เข้าไปมีส่วนร่วมและสวมบทบาทเชิงรุกของผู้ออกตราสารที่อยู่ภายในกลุ่มสินทรัพย์ที่สามารถลงทุนได้ของเรา ตัวอย่างเช่นทีมวิจัยที่แข็งแกร่งของเราทั้ง 12 คนได้จัดการประชุมมากกว่า 500 ครั้งในแต่ละปี ค้นหาโอกาสในการปรับปรุงให้ดีขึ้น ใช้ทุกโอกาสในการสื่อสารสิ่งที่เป็นประเด็นความกังวลของเราเกี่ยวกับ ESG และส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะต่อพฤติกรรมของผู้ออกหลักทรัพย์

ก่อนที่เราจะเปิดตัวกลยุทธ์พันธบัตรยั่งยืน (Sustainable Bond strategy) การประเมินความเสี่ยงด้านการกำกับดูแลถือเป็นส่วนสำคัญในกระบวนการวิเคราะห์ ปัจจุบันกระบวนการนี้ได้ถูกนำมาใช้อย่างเป็นทางการแล้วภายในกรอบการทำงานด้าน ESG ทำให้เรามีแนวทางที่เป็นระบบเชิงโครงสร้างมากขึ้นสำหรับการจัดการกับประเด็นเหล่านี้ โดยมีข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ให้บริการข้อมูล ESG จากภายนอกอย่างเช่น MSCI และ Sustainalytics

4. การที่จีนตั้งเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในปี 2060 ทำให้โอกาสของตราสารเครดิตประเภท ESG น่าจะเติบโตขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ อยากทราบว่าความได้เปรียบทางการแข่งขันของคุณในด้านนี้คืออะไร?

ทีมตราสารหนี้ของ Eastspring มีเครือข่ายตราสารเครดิตที่แข็งแกร่งอยู่ในเอเชีย กลยุทธ์เครดิตในเอเชียที่โดดเด่นของเรามีสัดส่วนถึงครึ่งหนึ่งอยู่ในดัชนีมาตรฐานซึ่งประกอบไปด้วยผู้ออกตราสารสัญชาติจีน ดังนั้น ทีมงานจึงคุ้นเคยกับตราสารเครดิตของจีนเป็นอย่างดี โดยการทำความเข้าใจถึงความเสี่ยงและโอกาสด้าน ESG ในประเทศจีนนั้นมาจากข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวกับตลาดเครดิตของประเทศ การเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับภาคส่วนนี้ของตลาดจึงนับว่าเป็นจุดแข็งที่สุดของเรา

ความจริงดังกล่าวได้ย้อนกลับมายังทีมวิเคราะห์เครดิตของเราที่มีข้อมูลเพียบพร้อม ซึ่งช่วยให้เราสามารถครอบคลุมโอกาสการลงทุนทั้งหมดที่อยู่ในเอเชีย นักวิเคราะห์เครดิตที่ครอบคลุมกลุ่มอุตสาหกรรมเฉพาะและผู้ออกตราสารยังมีหน้าที่ในการประเมินความเสี่ยงด้าน ESG ของแต่ละตราสารด้วย การทำความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับลักษณะการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาของบริษัทและอุตสาหกรรมช่วยให้เราสามารถระบุถึงประเด็นด้าน ESG และค้นหาโอกาสจากแนวโน้ม ESG ที่กำลังเกิดขึ้น

ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจก็คือแนวโน้มล่าสุดที่มีการเร่งนโยบายมุ่งให้เกิดการปฏิบัติในเรื่องสภาพภูมิอากาศ และความสนใจลงทุนที่เกิดขึ้นพร้อมกันในกลุ่มพลังงานหมุนเวียนและยานยนต์ไฟฟ้า เราเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นประเด็นสำคัญในระยะยาว ในขณะที่รัฐบาลของหลายประเทศมากขึ้นต่างสนับสนุนเรื่องความเร่งด่วนและประเด็นทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังการจำกัดการปล่อยก๊าซคาร์บอน การที่จีนให้คำมั่นในการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนเหลือศูนย์ (carbon neutrality) ภายในปี 2060 ผู้ออกตราสารของจีนก็จะมีความเคลื่อนไหวอย่างมากภายใต้เป้าหมายเชิงรุกของรัฐบาลและนำรวมมาตรการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมต่างๆ เข้ามาอยู่ในแผนธุรกิจตน

นอกจากนี้ การผลักดันโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสิ่งแวดล้อมในเอเชียน่าจะยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ธนาคารพัฒนาเอเชียหรือ Asian Development Bank ประเมินว่าความต้องการโครงสร้างพื้นฐานของเอเชียในช่วงปี 2016 ถึง 2030 จะสูงเกิน 26 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งรวมถึงโครงการในภาคพลังงานมูลค่า 14.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และภาคขนส่งในมูลค่า 8.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ กลุ่มการเงินและอสังหาริมทรัพย์จะเป็นอีกสองภาคส่วนหลักที่มีแนวโน้มขับเคลื่อนนวัตกรรมด้วย green financing

5. รางวัลที่ได้รับล่าสุดนับเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความเชี่ยวชาญของทีม คุณคิดว่าสิ่งที่มีความสำคัญต่อความสำเร็จเหล่านี้คืออะไร?

ทีมงานมีส่วนร่วมสำหรับชัยชนะที่ได้รับเหล่านี้ด้วยความสม่ำเสมอในการใช้แนวทางการลงทุนแบบหลายปัจจัย การมุ่งเน้นที่ปัจจัยพื้นฐาน การประเมินมูลค่า และการวิเคราะห์ทางเทคนิคสำหรับตลาดที่เราครอบคลุม การได้รับรางวัลและการเติบโตในสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การบริหารของเราจึงเป็นที่ยอมรับว่าเราเป็นคู่หูที่มีความมั่นคง ด้วยผลงานที่พิสูจน์แล้วจากเส้นทางที่เราผ่านมาทั้งในช่วงขาขึ้นและลงของตลาดตราสารหนี้เอเชีย

อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้หมกมุ่นอยู่แต่รางวัลที่ได้รับหรือยึดติดอยู่กับวิถีทางของเราเท่านั้น แต่เรายังถามตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่าสามารถที่จะตรวจจับความเสี่ยงและหาโอกาสที่เกิดขึ้นได้อย่างเพียงพอหรือไม่ในขณะที่ยังคงเปิดกว้างเพื่อปรับปรุงกระบวนการลงทุน ตัวอย่างเช่นในสมัยประธานาธิบดีทรัมป์ซึ่งมีความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์และผลกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เราได้ทำการวิเคราะห์ความเสี่ยงเหล่านี้และมีส่วนร่วมในการหารือกับนักวิเคราะห์ฝั่งโบรกเกอร์และจากบริษัทที่ปรึกษาภายนอกเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้จากมุมมองต่างๆ

การให้ความสำคัญกับการลงทุนที่ยั่งยืนและผลกระทบที่ตามมาต่อพฤติกรรมของผู้ลงทุนในการจัดหาเงินทุนได้สร้างแรงบันดาลใจให้แก่เราในการนำกรอบการทำงานแบบที่มีโครงสร้างมากขึ้นมาใช้ในการประเมินความเสี่ยงด้าน ESG ของผู้ออกตราสารหนี้ สิ่งนี้สอดคล้องกับมุมมองของเราที่ว่าความเสี่ยง ESG จะผลักดันความแตกต่างของราคามากยิ่งขึ้นเมื่อตลาดตราสารหนี้เอเชียเติบโตจนมีระดับการพัฒนาที่สูงขึ้น

ถ้าพิจารณาในระดับทีมงาน เราตั้งใจที่จะสนับสนุนให้เกิดความหลากหลายโดยมีจุดประสงค์เพื่อขยายมุมมองโดยรวมของทีมให้กว้างขึ้น ทีมงานของเรานั้นประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนจำนวน 21 คนซึ่งสามารถสะท้อนการเป็นตัวแทนที่ดีได้ทั้งในแง่ลักษณะประชากร สัญชาติ และเพศ สมาชิกในทีมยังประกอบด้วยเชื้อชาติที่แตกต่างกันซึ่งสามารถช่วยขยายขอบเขตความเข้าใจของทีมในด้านภาษาและวัฒนธรรม นอกจากนี้ สมาชิกของทีมในสัดส่วน 30% ยังเป็นผู้หญิง โดยมีจำนวนหนึ่งที่มีบทบาทในระดับอาวุโสภายในทีม

This document is produced by Eastspring Investments (Singapore) Limited and issued in:

Singapore and Australia (for wholesale clients only) by Eastspring Investments (Singapore) Limited (UEN: 199407631H), which is incorporated in Singapore, is exempt from the requirement to hold an Australian financial services licence and is licensed and regulated by the Monetary Authority of Singapore under Singapore laws which differ from Australian laws.


Hong Kong by Eastspring Investments (Hong Kong) Limited and has not been reviewed by the Securities and Futures Commission of Hong Kong.


This document is produced by Eastspring Investments (Singapore) Limited and issued in Thailand by TMB Asset Management Co., Ltd.


Indonesia by PT Eastspring Investments Indonesia, an investment manager that is licensed, registered and supervised by the Indonesia Financial Services Authority (OJK).


Malaysia by Eastspring Investments Berhad (531241-U).


United States of America (for institutional clients only) by Eastspring Investments (Singapore) Limited (UEN: 199407631H), which is incorporated in Singapore and is registered with the U.S Securities and Exchange Commission as a registered investment adviser.


European Economic Area (for professional clients only) and Switzerland (for qualified investors only) by Eastspring Investments (Luxembourg) S.A., 26, Boulevard Royal, 2449 Luxembourg, Grand-Duchy of Luxembourg, registered with the Registre de Commerce et des Sociétés (Luxembourg), Register No B 173737.


United Kingdom (for professional clients only) by Eastspring Investments (Luxembourg) S.A. - UK Branch, 125 Old Broad Street, London EC2N 1AR.


Chile (for institutional clients only) by Eastspring Investments (Singapore) Limited (UEN: 199407631H), which is incorporated in Singapore and is licensed and regulated by the Monetary Authority of Singapore under Singapore laws which differ from Chilean laws.


The afore-mentioned entities are hereinafter collectively referred to as Eastspring Investments.


The views and opinions contained herein are those of the author on this page, and may not necessarily represent views expressed or reflected in other Eastspring Investments’ communications. This document is solely for information purposes and does not have any regard to the specific investment objective, financial situation and/or particular needs of any specific persons who may receive this document. This document is not intended as an offer, a solicitation of offer or a recommendation, to deal in shares of securities or any financial instruments. It may not be published, circulated, reproduced or distributed without the prior written consent of Eastspring Investments. Reliance upon information in this posting is at the sole discretion of the reader. Please consult your own professional adviser before investing.

 

Investment involves risk. Past performance and the predictions, projections, or forecasts on the economy, securities markets or the economic trends of the markets are not necessarily indicative of the future or likely performance of Eastspring Investments or any of the funds managed by Eastspring Investments.


Information herein is believed to be reliable at time of publication. Data from third party sources may have been used in the preparation of this material and Eastspring Investments has not independently verified, validated or audited such data. Where lawfully permitted, Eastspring Investments does not warrant its completeness or accuracy and is not responsible for error of facts or opinion nor shall be liable for damages arising out of any person’s reliance upon this information. Any opinion or estimate contained in this document may subject to change without notice.


Eastspring Investments (excluding JV companies) companies are ultimately wholly-owned/indirect subsidiaries/associate of Prudential plc of the United Kingdom. Eastspring Investments companies (including JV’s) and Prudential plc are not affiliated in any manner with Prudential Financial, Inc., a company whose principal place of business is in the United States of America.