ปี 2026 มีแนวโน้มเริ่มต้นภายใต้สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุนในภูมิภาคเอเชียและตลาดเกิดใหม่ โดยได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นด้านการคลังและการเงิน รวมถึงการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ การปฏิรูปเชิงนโยบาย การบริโภคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และการนำปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) มาใช้ในวงกว้าง เป็นธีมเชิงโครงสร้างที่คาดว่าจะสร้างโอกาสการลงทุนระยะยาวที่มีความน่าสนใจในภูมิภาค ขณะเดียวกัน นโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลักมีแนวโน้มยังคงอยู่ในทิศทางผ่อนคลาย ซึ่งช่วยสนับสนุนตลาด ตราสารหนี้ ท่ามกลางแรงกดดันเงินเฟ้อที่เริ่มชะลอลง และอัตราผลตอบแทนที่แท้จริง (real yields) ที่ยังอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ อุปทานตราสารหนี้ในเอเชียที่อยู่ในระดับจำกัด โดยเฉพาะจากประเทศจีน คาดว่าจะช่วยสนับสนุนปัจจัยทางเทคนิคของตลาดต่อเนื่องไปจนถึงปี 2026
อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงยังคงมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ระดับมูลค่าตลาดหุ้นสหรัฐที่อยู่ในระดับสูง การกระจุกตัวของ ตลาดหุ้น ความเป็นไปได้ของการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ และความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้า ซึ่งอาจก่อให้เกิดความผันผวนในตลาด เพื่อรับมือกับความท้าทายดังกล่าว การกระจายการลงทุนและการบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ โดยอาศัยการป้องกันความเสี่ยงเชิงระบบ (systematic hedging) การสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มเชิงยุทธวิธี (tactical alpha) และกลยุทธ์เชิงปริมาณ (quantitative strategies) มีความสำคัญต่อความแข็งแกร่งของพอร์ตการลงทุน ทั้งนี้ เนื่องจากเอเชียและตลาดเกิดใหม่มีความหลากหลายสูงและไม่ได้เป็นกลุ่มเดียวกันทั้งหมด การบริหารการลงทุนเชิงรุกจึงมีความจำเป็น เพื่อปลดล็อกผลตอบแทนที่ไม่สัมพันธ์กัน (uncorrelated returns) อย่างมีประสิทธิภาพ
ดาวน์โหลด มุมมองการตลาดปี 2026วิเคราะห์เชิงลึกในธีมการลงทุน
มาตรการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและตลาดการเงิน
Find out more
ความแตกต่างของทิศทางตลาด ส่งผลให้ต้องใช้ “กลยุทธ์เชิงรุก” ในเอเชียและตลาดเกิดใหม่
Find out more

