1. Thai ESGX คืออะไร?
คำตอบ: กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thailand ESG Extra Fund: Thai ESGX) เป็นกองทุนรวมที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีรองรับการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF และเงินลงทุนใหม่สำหรับการลงทุนในช่วงเวลาที่กำหนด 2 เดือน โดยต้องลงทุนในทรัพย์สินที่ออกโดยผู้ออกหรือกิจการในประเทศไทยที่มีคุณสมบัติด้านความยั่งยืนตามหลักเกณฑ์เดียวกันกับกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV
2. ประเภทสินทรัพย์ที่ Thai ESGX ต้องลงทุนในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV
ประกอบด้วย:
- หุ้นกลุ่มความยั่งยืนใน SET หรือ mai ไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของ NAV (ไม่จำเป็นต้องลงทุนเฉพาะหุ้นใน SET ESG Ratings เพียงอย่างเดียว*)
- ตราสารหนี้ในกลุ่มความยั่งยืน
- โทเคนดิจิทัลเพื่อส่งเสริมความยั่งยืน
- ทั้งนี้ Thai ESGX สามารถลงทุนหุ้นไทยที่ไม่ใช่ ESG ได้ เพราะส่วนการลงทุนที่เหลืออีก 20% ของ NAV สามารถลงทุนหุ้นไทยที่ไม่ใช่ ESG ได้
3. มีเงื่อนไขสิทธิประโยชน์ทางภาษีอย่างไร?
คำตอบ: สิทธิประโยชน์ทางภาษีแบ่งออกเป็น 2 วงเงินใหม่
โดยไม่รวมกับกองทุนและประกันเพื่อรองรับการเกษียณการทำงานอื่น ๆ ภายใต้เงื่อนไขดังนี้:
Thai ESGX (วงเงินลดหย่อนที่ 1) สำหรับเงินใหม่ที่บุคคลธรรมดาลงทุนในกองทุน Thai ESGX เฉพาะปี2568 สูงสุด 300,000 บาท
- วงเงินลดหย่อน : ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท (เฉพาะปี2568)
- ระยะเวลาลงทุน : เปิดระยะให้ลงทุนภายใน 2 เดือน
(คาดว่าเริ่มเปิดขายหน่วยได้ทุกวันทำการ ของเดือน พ.ค. - มิ.ย. 68)
- การถือครอง : ไม่น้อยกว่า 5 ปี(วันชนวัน นับแต่วันที่ลงทุน)
Thai ESGX (วงเงินลดหย่อนที่ 2) สำหรับผู้ลงทุนที่สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF เดิม ที่ถือทั้งหมด ใน LTF ทุกกองทุนในทุก บลจ. มาเป็นหน่วยลงทุนของ Thai ESGX เพื่อรับเงินสิทธิลดหย่อนสำหรับ LTF เดิม สูงสุด 500,000 บาท
- วงเงินลดหย่อน : สูงสุด 500,000 บาท รวม ทยอยลดหย่อน 5 ปี ตั้งแต่ปีภาษี2568 – 2572
- ✓ ปีแรก (2568) : สูงสุด 300,000 บาท
- ✓ ปีที่ 2 - 5 (2569 - 2572) : ให้ได้รับยกเว้นเป็นจำนวนเท่า ๆ กันในแต่ละปีภาษี
- หน่วยลงทุนที่มีสิทธิ : หน่วยลงทุนที่ผู้ถือหน่วย LTF ถือครอง ณ วันที่ ครม. มีมติอนุมัติมาตรการ ข้างต้น (ไม่รวม class หน่วยภาษีอื่นภายใต้กองทุนเดียวกัน เช่น class SSF)
หมายเหตุ : ผู้ถือหน่วย LTF ที่ประสงค์ใช้สิทธิลดหย่อน ต้องสับเปลี่ยนจาก LTF ทุกกองทุน ในทุก
บลจ. มา Thai ESGX ในช่วงระยะเวลาการสับเปลี่ยนที่กำหนด หากสับเปลี่ยนมาไม่ครบ
จะไม่มีสิทธิใช้วงเงินลดหย่อนที่ 2 ได้
- การถือครอง : Thai ESGX ที่สับเปลี่ยนจาก LTF รวมทั้งหมด ต้องถือครองไม่น้อยกว่า 5 ปี (วันชนวัน นับจากวันที่ส่งคำสั่งสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF เดิม มายังกองทุน Thai ESGX)
หมายเหตุ : การขายหน่วยลงทุนก่อนครบระยะเวลา 5 ปี จะต้องคืนเงินภาษีที่ได้รับการยกเว้น และมีเบี้ยปรับตามที่กฎหมายหรือกฎเกณฑ์กำหนด นอกจากนี้ หากมีกำไรจากการขายหน่วยจะต้อง นำกำไรนั้นมาคำนวณภาษีเงินได้ตามหลักเกณฑ์ทางภาษีด้วย
- ระยะเวลาในการสับเปลี่ยน : ภายใน 2 เดือน (คาดว่าเป็นช่วงเดียวกันกับการเปิดขายหน่วย Thai ESGX (วงเงินลดหย่อนที่ 1) คือ เริ่มเปิดให้สับเปลี่ยนหน่วย LTF มาเป็น Thai ESGX ได้ทุกวันทำการ
ของเดือน พ.ค. - มิ.ย. 68)
ทั้งนี้ การใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด
4. ใครได้ประโยชน์ทางภาษีจากการลงทุนใน Thai ESGX?
คำตอบ::
วงเงินลดหย่อนที่ 1 สำหรับเงินใหม่ที่บุคคลธรรมดาลงทุนในกองทุน Thai ESGX ในช่วงเวลาที่เปิดขาย หน่วยไม่เกิน 2 เดือน (คาดว่า พ.ค. - มิ.ย. ปี 2568) ลดหย่อนสูงสุด 300,000 บาท - ผู้ลงทุนทุกคนที่เป็นผู้เสียภาษีรายได้บุคคลธรรมดา ซึ่งรวมถึงผู้ถือหน่วย LTF ที่อยากลงทุนเพิ่มเติม นอกเหนือจากการได้รับสิทธิจากวงเงินลดหย่อนที่ 2 ด้วย
วงเงินลดหย่อนที่ 2 สำหรับการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF เดิม มากองทุน Thai ESGX เพื่อรับเงิน ลดหย่อนสำหรับ LTF เดิม ลดหย่อนสูงสุด 500,000 บาท - ผู้ถือหน่วยกองทุนรวม LTF ที่มีชื่อเป็นผู้ถือหน่วยลงทุน ณ วันที่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติ ที่ได้ สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ทั้งหมดในทุกกองทุน ทุก บลจ. ของผู้ถือหน่วยลงทุนรายนั้น ๆ มาเป็น หน่วยลงทุน Thai ESGX
5. กรณีผู้ถือหน่วยกองทุนรวม LTF ประสงค์จะย้ายไปกองทุนรวม Thai ESGX หากมีเงินลงทุนมากกว่า 500,000 บาท จะมีผลอย่างไร?
คำตอบ: หากต้องการใช้สิทธิลดหย่อนวงเงินที่ 2 จะต้องสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ทั้งหมดในทุกกองทุน ทุก บลจ. ของผู้ถือหน่วยลงทุนรายนั้น ๆ มาเป็นหน่วยลงทุน Thai ESGX โดยหน่วยลงทุนที่สับเปลี่ยน มาแล้วรวมทั้งหมด ต้องถือครองตามเงื่อนไข ไม่น้อยกว่า 5 ปีด้วย (วันชนวัน นับจากวันที่ส่งคำสั่ง สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF เดิม มากองทุน Thai ESGX)
6. Thai ESGX วงเงินลดหย่อนที่ 1 (300,000 บาท) ให้สิทธิเฉพาะปี 2568?
คำตอบ: ใช่Thai ESGX วงเงินลดหย่อนที่ 1 ให้สิทธิลดหย่อนเฉพาะในปี 2568
- วงเงินลดหย่อนจากการลงทุนในช่วงระยะเวลา 2 เดือน ที่กำหนดในปี 2568 จะเป็นวงเงินสิทธิ ประโยชน์ทางภาษีแยกจากการลงทุนในกองทุน Thai ESG ปกติ
- ทั้งนี้ Thai ESGX จะสามารถเปิดขายได้อีกครั้งตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป โดย Thai ESG และ
Thai ESGX จะใช้วงเงินลดหย่อนเดียวกัน
7. สรุปแล้วในปีภาษี 2568 ผู้ลงทุนมีวงเงินที่สามารถลดหย่อนสำหรับการลงทุนในกอง ESG อย่างไรบ้าง?
คำตอบ: ในปี 2568 มีกองทุนรวมกลุ่ม Thai ESG ที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี 3 วงเงิน รวมสูงสุดไม่เกิน 900,000 บาท ดังนี้:
- 1เงินลงทุนใหม่สำหรับผู้ลงทุนทุกรายที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของ Thai ESG ในปัจจุบัน โดยลดหย่อนไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท
- เงินลงทุนใหม่สำหรับผู้ลงทุนทุกรายที่ลงทุนใน Thai ESGX ในช่วงระยะเวลา 2 เดือนที่เปิดขายในปี 2568 โดยลดหย่อนไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท
- 3สำหรับผู้ถือหน่วย LTF ที่สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนจาก LTF ทุกกองทุนไป Thai ESGX โดยมีวงเงินลดหย่อนดังนี้:
- ปีแรก (2568): สูงสุด 300,000 บาท
- ปีที่ 2 - 5 (2569 - 2572): ให้ได้รับยกเว้นเป็นจำนวนเท่า ๆ กันในแต่ละปีภาษี
8. ขายหน่วยลงทุน LTF ออกไปบางส่วนได้หรือไม่ และบางส่วนสลับเข้ามา Thai ESGX
คำตอบ: หากผู้ลงทุนขาย LTF บางส่วนหลังวันที่ 11 มีนาคม 2568 จะไม่สามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี วงเงินสำหรับการสับเปลี่ยน LTF ไป Thai ESGX ได้ แต่ยังสามารถซื้อ Thai ESGX และใช้สิทธิ ประโยชน์ทางภาษีสำหรับเงินลงทุนใหม่ได้ ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน และไม่เกิน 300,000 บาท สำหรับปี 2568 ได้
9. กรณีลงทุน Thai ESGX ตั้งแต่ปี 2569 สามารถลดหย่อนภาษีได้ถึงปีใด ใช้วงเงินลดหย่อนเดียวกันกับ Thai ESG เดิมหรือไม่?
คำตอบ: การซื้อหน่วย Thai ESGX ตั้งแต่ปี 2569 จะถือว่าเป็นวงเงินลดหย่อนเดียวกับวงเงินลดหย่อน Thai ESG เดิม โดยวงเงินลดหย่อนของ Thai ESG ในปี 2569 สามารถลดหย่อนได้ไม่เกิน 300,000 บาท และไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน และต้องถือครองหน่วยลงทุนเป็นระยะเวลา 5 ปี
10. จะนับอายุการถือครอง Thai ESGX ที่ซื้อและสับเปลี่ยนในปี 2568 อย่างไร?
คำตอบ: สำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนที่ลงทุนในวงเงินลดหย่อนที่ 1 (วงเงินใหม่) นับตั้งแต่วันที่ลงทุน โดยต้องถือครองหน่วยลงทุน Thai ESGX เป็นระยะเวลา 5 ปี
11. ปี 2568 ซื้อหน่วยลงทุน Thai ESG ไปแล้ว 300,000 บาท แล้ว จะซื้อหน่วยลงทุน Thai ESGX อีก 300,000 บาท ได้หรือไม่?
คำตอบ: ได้ โดยการเสนอขายหน่วยลงทุน Thai ESGX จะเปิดขายในช่วงระยะเวลา 2 เดือน ประมาณเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน 2568 เท่านั้น
12. มูลค่าที่นำไปคิดลดหย่อนภาษีคิดจากมูลค่าตลาด หรือต้นทุน
คำตอบ: คิดจากมูลค่า NAV ณ วัน trade date ที่สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF เป็น Thai ESGX
13. หากมีหน่วยลงทุน LTF ใน class ที่ไม่ได้ลดหย่อนภาษี ที่ซื้อตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป ต้องโอนไป Thai ESGX ด้วยหรือไม่ ?และหน่วยลงทุนที่ลูกค้าได้รับจากการซื้อหน่วยลงทุน LTF ภายหลังจากวันที่ 11 มีนาคม 2568 จะต้องโอนไป Thai ESGX ด้วยหรือไม่ ?
คำตอบ:
- กรณีผู้ถือหน่วยลงทุน LTF ประสงค์จะใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีภายใต้มาตรการ Thai ESGX
จะต้องสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ทั้งหมดที่ถืออยู่ ณ วันที่ ครม. มีมติเห็นชอบมาตรการ Thai ESGX (วันที่
11 มีนาคม 2568) ซึ่งรวมถึงหน่วยลงทุน LTF ที่ซื้อตั้งแต่ปี 2563 เป็นหน่วยลงทุน Thai ESGX ด้วย
- หน่วยลงทุน LTF ที่ซื้อหลังวันที่ 11 มีนาคม 2568 จะไม่ถูกนับรวมเป็นหน่วยลงทุน LTF ที่มีสิทธิภายใต้
โครงการ Thai ESGX เนื่องจากเป็นหน่วยลงทุนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนถือครองภายหลังวันที่ ครม. มีมติเห็นชอบมาตรการทางภาษีสำหรับ Thai ESGX (วันที่ 11 มีนาคม 2568)
14. กรณีลูกค้าทยอยสับเปลี่ยน LTF ไปเข้า Thai ESGX หลายวัน (ในช่วง 2 เดือน) จะส่งผลทำให้ เงื่อนไขการถือครองของหน่วยลงทุนแต่ละก้อนที่เข้ามาครบกำหนดไม่เท่ากันใช่หรือไม่ โดยจะนับจาก วันที่ทยอยสับเปลี่ยนในแต่ละก้อนไป 5 ปี (นับแบบวันชนวัน) ใช่หรือไม่ ?
คำตอบ: ใช่ การนับ 5 ปี(นับแบบวันชนวัน) จะนับจากวันที่แจ้งสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF แต่ละก้อน