รัสเซีย-ยูเครน จบลงที่ตรงไหน?

จากข่าวล่าสุดประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้ประกาศบุกยูเครนเป็นทางการแล้ว แล้วได้มีการดำเนินการโจมตีเมืองต่างๆของรัสเซียอีกด้วย เหตุผลหลักๆเกิดความขัดแย้งมาจากการที่ยูเครนต้องการเข้าร่วมกับ NATO ซึ่งจะทำให้กองกำลังของ NATO สามารถเข้าพื้นที่ชิดขอบชายแดนของรัสเซีย รวมถึงติดตั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ได้ ซึ่งอาจะทำให้รัสเซียตกอยู่ในอันตรายได้ในอนาคต

เดิมทีนั้นในปี 1997 ทางกลุ่ม NATO ให้สัญญากกับประธานาธิบดีรัสเซียในสมัยนั้นว่าจะไม่ขยายดินแดนไปทางรัสเซีย (ตอนนั้นยังเป็นสหภาพโซเวียตอยู่) แต่ก็ได้มีการรับสมาชิกเพิ่มขึ้นเรื่อยมาหลังจากสหภาพโซเวียล่มสลายลง ทำให้ปัจจุบัน NATO ขยับดินแดนเข้าใกล้รัสเซียมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ปูตินไม่พอใจและได้เคลื่อนทัพมากดดันยูเครน อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้รัสเซียพร้อมเจรจากับชาติตะวันตก โดยรัสเซียได้ยื่นเงื่อนไขไปทาง NATO คือ

1. NATO ต้องไม่ให้ยูเครนเข้าร่วมโดยเด็ดขาด

2. ให้ถอนทัพและกำลังทหารทั้งหมดจากสมาชิกที่เข้าร่วมองค์กร NATO หลังปี 1997 อย่างไรก็ตามข้อเสนอจากทางรัสเซียก็โดนทางฝั่งอเมริกาและยุโรปปฏิเสธโดยทันที

เหตุการณ์หลังจากนี้

คาดว่าบุกรุกของรัสเซียจะเข้ามาได้หลายช่องทางเพราะได้วางกำลังทหารล้อมไว้หมดแล้ว คือ

1. รัสเซียน่าจะส่งกองกำลังมาทางเมืองที่พึ่งประการรับรองมาทั้ง 2 เมือง ซึ่งรัสเซียได้ส่งกำลังทหารเข้าไปสมทบแล้ว

2. ทางตอนเหนือของยูเครนผ่านทางเบลารุสเพื่อมุ่งหน้าสู่เคียฟ

3. ทางตอนใต้จากเมืองที่ยึดมาจากยูเครนในปี 2014 ที่ชื่อว่าไครเมีย

กำลังทหารของทั้ง 2 ประเทศ

ถ้าเปรียบเทียบกองกำลังทหารของยูเครนกับรัสเซียจะเห็นได้ว่ากองกำลังของยูเครนมีศักยภาพในการทำสงครามน้อยกว่าฝั่งรัสเซียเยอะมากๆ ซึ่งทำให้ยูเครนน่าสู้ด้วยค่อนข้างลำบาก ขณะที่ NATO เองก็ออกมาบอกชัดเจนว่าจะไม่ส่งกองกำลังทหารเข้าไปช่วยในการรบ อย่างมากก็สนับสนุนแค่ด้านอาวุธและการรักษาพยาบาลเท่านั้น

มาตรการตอบโต้จากสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตร

คาดว่าชาติตะวันตกจะออกมาตรการตอบโต้รัสเซียมากกว่าการเข้าร่วมรบในยูเครน โดยสหรัฐฯได้เสนอให้มีการปิดท่อส่งก็าซ Nord Stream 2 เพื่อไม่ให้รัสเสียส่งก๊าซมาขายในยุโรปได้ แต่มาตรการนี้ก็ยังส่งผลกระทบต่อเยอรมันด้วย เนื่องจากตัวเยอรมันเองต้องนำเข้าก็าซธรรมชาติเข้ามาใช้ ซึ่งการปิดท่อส่งก๊าซจะยิ่งทำให้ราคาพลังงานในยุโรปสูงขึ้นไปอีก มาตรการถัดไปอาจจะเป็นการจำกัดการเข้าถึงสนามบิน สถาบันการเงิน และอุตสาหกรรมหลักโดยสหรัฐและยุโรป นอกจากนี้เราอาจะเห็นชาติตะวันตกยกเลิกการให้รัสเซียเข้าถึงระบบการชำระเงินระหว่างประเทศ swift อีกด้วย

ทั้งนี้บางประเทศได้เริ่มประกาศมาตรการคว่ำบาตรกันไปบางส่วนแล้ว เช่น การห้ามซื้อขายตราสารหนี้ของรัสเซีย และการคว่ำบาตรทางการเงินบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่ก่อสร้างท่อส่งก๊าซ nodstream 2 รวมถึงคว่ำบาตรบุคคลสำคัญที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มกองกำลังแบ่งแยกดินแดนในเมือง Luhansk และ Donetsk อีกด้วย

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

กรณีศึกษาที่ใกล้เคียงกันคือ การที่รัสเซียเข้ายึดเมืองไครเมียจากยูเครนในปี 2014 ซึ่งในตอนนั้นทางอเมริกาเองก็ไม่ได้ส่งกองกำลังเข้าไปช่วยรบแต่อย่างใด และมาตรการตอบโต้ทางทั้งโลกส่วนใหญ่จะเป็นการคว่ำบาตรเศรษฐกิจรัสเซียในด้านต่างๆแทน ขณะที่ในปัจจุบันรัสเซียเป็นผู้ส่งออกน้ำมันอันดับ 3 ของโลก รวมถึงเป็นผู้ส่งออกแร่แพลเลเดียมรายใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้รัสเซียและยูเครนส่งออกธัญพืชรวมกันเป็นสัดส่วน 1 ใน 4 ของโลกอีกด้วย ดังนั้นผลกระทบต่อเศรษฐกิจน่าจะมาในรูปแบบของอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นจากราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นทั้งราคาน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ นอกจากนี้ราคาอาหารมีโอกาสเพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกันจากการขาดแคลนธัญพืช ซึ่งเป็น 1 ในต้นทุนในการทำปศุสัตว์ รวมถึงราคาแพลเลเดียมมีโอกาสพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง โดยพาเลเดียมเป็นส่วนประกอบในระบบไอเสียรถยนต์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ซึ่งมีโอกาสทำให้ราคารถยนต์สูงขึ้น เช่นเดียวกับราคาของเซมิคอนดักเตอร์อีกด้วย ขณะที่ผู้ที่ได้รับผลกระทบหลักจะเป็นยุโรปเนื่องจากน้ำเข้าพลังงานจากรัสเซียสูงถึงประมาณ 40% ของทั้งหมด

ผลกระทบต่อตอตลาดหุ้น

หากเรามาดูผลกระทบต่อตลาดหุ้น จะเห็นได้ว่าอย่างตลาดหุ้นรัสเซียร่วงลงทันทีกว่า 10% ก่อนที่จะฟื้นตัวกลับมาได้หลังจากนั้น 4-5 เดือน ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นๆ พบว่าตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวลงหมด ยกเว้นตลาดหุ้นไทยที่พุ่งขึ้นสวนทางกับประเทศอื่นๆ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปที่ใกล้ชิดกับยูเครนมากที่สุดปรับตัวลง 4-5% ส่วนตลาดหุ้นอังกฤษก็ปรับตัวลงใก้ลเคียงกัน ซึ่งทั้ง 2 ตลาดใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือนถึงฟื้นตัวกลับมาได้ ส่วนทางหุ้นโลกและหุ้นอเมริกาปรับตัวลงเล็กน้อยที่ 2-3% เท่านั้น

thumbnail_RussiaUkraine_Thumbna-fig-1

คำแนะนำ

Wait & see สินทรัพย์เสี่ยงไปก่อน โดยเราคาดว่ามีโอกาสเกิดได้ทั้งหมด 3 ทางด้วยกัน คือ เกิดสงครามเต็มรูปแบบจากรัสเซียและนาโต้ไม่เข้าไปช่วย ทำให้สงครามน่าจะจบเร็ว แต่ตลาดหุ้นจะปรับฐานแรงในช่วงแรก และค่อยฟื้นตัวหลังสงครามสงบ

สงครามยืดเยื้อเนื่องจากมีการขัดขวางจากนาโต้ ตลาดหุ้นมีแนวโน้ม sideway down และราคาพลังงานพุ่งสูงขึ้น รัสเซียและนาโต้กลับมาเจรจากันอีกครั้ง ตลาดหุ้นมีโอกาสเกิด technical rebound ได้ในระยะสั้นๆ อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีบทสรุปแบบไหน สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงไม่ได้ แนะนำลดสัดส่วนการลงทุนในยุโรป และสหราชอาณาจักร แนะนำกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ และพันธบัตรรัฐบาล รวมถึงตลาดหุ้นของประเทศที่อยู่ห่างไกลจากสงคราม และมี correlation กับหุ้นโลกต่ำ เช่น หุ้นจีน และหุ้นเวียดนาม

thumbnail_RussiaUkraine_Thumbna-fig-1
This document is produced by Eastspring Investments (Singapore) Limited and issued in:

Singapore and Australia (for wholesale clients only) by Eastspring Investments (Singapore) Limited (UEN: 199407631H), which is incorporated in Singapore, is exempt from the requirement to hold an Australian financial services licence and is licensed and regulated by the Monetary Authority of Singapore under Singapore laws which differ from Australian laws.


Hong Kong by Eastspring Investments (Hong Kong) Limited and has not been reviewed by the Securities and Futures Commission of Hong Kong.


This document is produced by Eastspring Investments (Singapore) Limited and issued in Thailand by TMB Asset Management Co., Ltd.


Indonesia by PT Eastspring Investments Indonesia, an investment manager that is licensed, registered and supervised by the Indonesia Financial Services Authority (OJK).


Malaysia by Eastspring Investments Berhad (531241-U).


United States of America (for institutional clients only) by Eastspring Investments (Singapore) Limited (UEN: 199407631H), which is incorporated in Singapore and is registered with the U.S Securities and Exchange Commission as a registered investment adviser.


European Economic Area (for professional clients only) and Switzerland (for qualified investors only) by Eastspring Investments (Luxembourg) S.A., 26, Boulevard Royal, 2449 Luxembourg, Grand-Duchy of Luxembourg, registered with the Registre de Commerce et des Sociétés (Luxembourg), Register No B 173737.


United Kingdom (for professional clients only) by Eastspring Investments (Luxembourg) S.A. - UK Branch, 125 Old Broad Street, London EC2N 1AR.


Chile (for institutional clients only) by Eastspring Investments (Singapore) Limited (UEN: 199407631H), which is incorporated in Singapore and is licensed and regulated by the Monetary Authority of Singapore under Singapore laws which differ from Chilean laws.


The afore-mentioned entities are hereinafter collectively referred to as Eastspring Investments.


The views and opinions contained herein are those of the author on this page, and may not necessarily represent views expressed or reflected in other Eastspring Investments’ communications. This document is solely for information purposes and does not have any regard to the specific investment objective, financial situation and/or particular needs of any specific persons who may receive this document. This document is not intended as an offer, a solicitation of offer or a recommendation, to deal in shares of securities or any financial instruments. It may not be published, circulated, reproduced or distributed without the prior written consent of Eastspring Investments. Reliance upon information in this posting is at the sole discretion of the reader. Please consult your own professional adviser before investing.

 

Investment involves risk. Past performance and the predictions, projections, or forecasts on the economy, securities markets or the economic trends of the markets are not necessarily indicative of the future or likely performance of Eastspring Investments or any of the funds managed by Eastspring Investments.


Information herein is believed to be reliable at time of publication. Data from third party sources may have been used in the preparation of this material and Eastspring Investments has not independently verified, validated or audited such data. Where lawfully permitted, Eastspring Investments does not warrant its completeness or accuracy and is not responsible for error of facts or opinion nor shall be liable for damages arising out of any person’s reliance upon this information. Any opinion or estimate contained in this document may subject to change without notice.


Eastspring Investments (excluding JV companies) companies are ultimately wholly-owned/indirect subsidiaries/associate of Prudential plc of the United Kingdom. Eastspring Investments companies (including JV’s) and Prudential plc are not affiliated in any manner with Prudential Financial, Inc., a company whose principal place of business is in the United States of America.