บทสรุป

 

งบประมาณใหม่ของอินเดียตั้งเป้าลดการขาดดุลลงเหลือ 4.4% ของ GDP ในปีงบประมาณ 2026 จาก 4.8% ในปีงบประมาณ 2025 โดยผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมคาดว่าจะอยู่ในระดับปานกลาง แต่ส่งผลเชิงบวกเล็กน้อยต่อการบริโภคในกลุ่มผู้มีรายได้ระดับล่าง

การเปลี่ยนแปลงสำคัญของงบประมาณครั้งนี้คือ การปรับเพิ่มเกณฑ์รายได้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งเทียบเท่ากับการเพิ่มรายได้ให้ครัวเรือนประมาณ 0.3% โดยเน้นไปที่กลุ่มผู้มีรายได้ต่ำ

การลดลงของตัวเลขขาดดุลส่วนใหญ่จะมาจากการโอนเงินปันผลที่เพิ่มขึ้นจากธนาคารกลางอินเดีย (RBI) และการใช้จ่ายที่ลดลงในบางรายการ เช่น ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย นอกจากนี้ รัฐบาลยังประกาศตั้งคณะกรรมาธิการชุดใหม่เพื่อส่งเสริมการยกเลิกกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อภาคธุรกิจ

หนี้สาธารณะต่อ GDP ยังคงอยู่ในกรอบเป้าหมาย โดยคาดว่าจะลดลงจาก 57% ของ GDP ในปีงบประมาณ 2025 สู่ระดับ 50% ในปีงบประมาณ 2031 ซึ่งจะส่งผลดีต่ออันดับความน่าเชื่อถือของประเทศและแนวโน้มการไหลเวียนของสินเชื่อในระยะยาว

Ray Farris หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเราคาดว่า RBI จะเริ่มวัฏจักรการปรับลดดอกเบี้ยลง 75 bps โดยจะเริ่มจากการปรับลด 25 bps ในการประชุมวันที่ 5-7 กุมภาพันธ์ ทั้งนี้ เศรษฐกิจอินเดียน่าจะเร่งตัวขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปี

แนวโน้มและผลกระทบต่อการลงทุน

Matthew Kok ผู้จัดการพอร์ตการลงทุนตราสารหนี้ ระบุว่าแม้รัฐบาลจะยืนยันเดินหน้าควบคุมวินัยการคลัง แต่ปริมาณการออกพันธบัตรรัฐบาลอินเดีย (IGBs) ทั้งยอดสุทธิและยอดรวม คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในปีงบประมาณ 2026 เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2025 อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการกู้ยืมที่สูงกว่าคาดอาจกดดันความเชื่อมั่นของตลาดและสร้างแรงกดดันต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรในระยะสั้น

อย่างไรก็ดี ตลาดน่าจะสามารถดูดซับปริมาณพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นได้อย่างราบรื่นในที่สุด โดยปัจจัยด้านอุปสงค์และอุปทานโดยรวมยังคงสมดุล หรืออาจมีแนวโน้มเป็นบวกเล็กน้อย โดยเฉพาะเมื่อธนาคารกลางอินเดีย (RBI) กลับมาเป็นผู้ซื้อสุทธิของ IGBs ผ่านการดำเนินนโยบายผ่านตลาดการเงิน (Open Market Operations)

ด้านธนาคารพาณิชย์เองก็มีแนวโน้มที่จะยังคงสนับสนุนความต้องการซื้อพันธบัตร เนื่องจากมีอัตราการเติบโตของเงินฝากที่แข็งแกร่งและสม่ำเสมอ ขณะที่ตัวเลขทางการคลังที่มีความระมัดระวังยังสนับสนุนแนวโน้มที่ RBI จะเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงิน หลังจากที่การเติบโตเริ่มชะลอตัว ซึ่งเมื่อพิจารณาจากปัจจัยข้างต้นแล้ว เราจึงยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อพันธบัตรรัฐบาลอินเดียในระยะกลาง

Yuan Yiu Tsai ผู้จัดการพอร์ตการลงทุนตราสารทุน เห็นด้วยว่าการที่รัฐบาลยังคงให้ความสำคัญกับวินัยทางการคลัง จะเปิดโอกาสให้ธนาคารกลางอินเดียมีพื้นที่ในการเพิ่มสภาพคล่องและสามารถลดอัตราดอกเบี้ยได้ในที่สุด โดยในระยะสั้น งบประมาณฉบับนี้คาดว่าจะส่งผลดีต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในเขตเมือง มากกว่าหุ้นที่ขับเคลื่อนด้วยการลงทุน (Capex-driven) เนื่องจากการลดภาษีโดยรวมช่วยเพิ่มรายได้ที่สามารถนำมาใช้จ่ายได้ของประชากรระดับรายได้ปานกลาง โดยกลุ่มที่ได้รับประโยชน์ทันที ได้แก่ หุ้นกลุ่มยานยนต์ กลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม-ร้านอาหาร (Hospitality) และค้าปลีก

อย่างไรก็ตาม การปรับมุมมองต่อมูลค่าหุ้นใหม่ในระยะถัดไปจะต้องได้รับการสนับสนุนจากผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ไตรมาสข้างหน้า ดังนั้น เราจึงให้ความสำคัญกับหุ้นที่อยู่ในวัฏจักรขาขึ้น และมีความคาดหวังต่อกำไรในระดับต่ำเป็นหลัก

ในบรรดาหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในเขตเมือง เรามีมุมมองเชิงบวกสูงสุดต่อกลุ่มรถยนต์สี่ล้อ ซึ่งอยู่ในจุดเริ่มต้นของการฟื้นตัวรอบใหม่ หลังจากที่ยอดขายของอุตสาหกรรมเติบโตได้แค่ราว 3% ในปี 2024

ขณะเดียวกัน เราไม่มองว่าแรงขับเคลื่อนด้านรายจ่ายลงทุน (capex) ของอินเดียจะหยุดลงเพียงเท่านี้ โดยการเติบโตระยะต่อไปจะขับเคลื่อนด้วยการลงทุนของรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน แม้ที่ผ่านมาเราได้หลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้นกลุ่มสินค้าทุนและสินค้าอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงเกินไป แต่เราจะจับตาดูโอกาสในการเข้าลงทุนอย่างใกล้ชิด หากตลาดเกิดการปรับฐาน

ตามมุมมองของ ICICI Prudential Asset Management (IPAMC) ระบุว่างบประมาณครั้งนี้สะท้อนถึงความต่อเนื่องของนโยบาย และวางโรดแมปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีมาตรการส่งเสริมการจ้างงาน สนับสนุนรายได้ที่สามารถนำมาใช้จ่ายได้ และกำหนดแนวทางรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสภาวะเศรษฐกิจมหภาคและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจทั่วโลก การลดภาษีจะช่วยกระตุ้นการบริโภคสินค้าที่ไม่จำเป็น ขณะที่การลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ในแต่ละตลาดย่อย ก็มีแนวโน้มได้รับแรงสนับสนุนที่ดี แม้ว่างบประมาณจะเน้นส่งเสริมการบริโภค แต่การจัดสรรงบประมาณให้กับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่สำคัญ เช่น ทางรถไฟ และการขนส่งทางถนน ยังคงอยู่ในระดับสูง

ด้วยเหตุนี้ IPAMC จึงมีมุมมองเชิงบวกต่อหลายกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมซีเมนต์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่พึ่งพาตลาดภายในประเทศโดยตรง จะได้รับประโยชน์จากมาตรการส่งเสริมการสร้างที่อยู่อาศัย ซึ่งคิดเป็นประมาณสองในสามของความต้องการซีเมนต์ในประเทศ ขณะที่ราคาซีเมนต์ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ทำให้กลุ่มนี้มีแนวโน้มสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงเกินจริงโดยราคาหุ้นได้สะท้อนการเติบโตที่สูงไปแล้ว

ส่วนกลุ่มยานยนต์ ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับการบริโภคที่ไม่จำเป็นนั้น ก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์จากการลดภาษีที่ช่วยเพิ่มกำลังซื้อของชนชั้นกลาง ในขณะที่ธุรกิจการเงินก็มีแนวโน้มได้รับผลบวก โดย IPAMC คาดว่าจะเห็นการปรับปรุงในคุณภาพสินทรัพย์ของผู้ให้สินเชื่อ

ทั้งนี้ IPAMC เป็นที่ปรึกษาการลงทุนให้กับกองทุนที่เน้นการลงทุนในอินเดียหลายกองทุน ซึ่งบริหารโดย Eastspring Investments

Interesting reads

Know more
ESG เส้นทางสู่ความยั่งยืน

in insights

ตราสารทุน

ESG เส้นทางสู่ความยั่งยืน

25 เม.ย.

เรามุ่งเน้นในการลงทุนอย่างรับผิดชอบ (Responsible Investment หรือ RI) และแสดงให้เห็นถึง ...

มุมมองการลงทุนจาก CIO ประจำเดือนเมษายน

in insights

กองทุนรวมผสม

มุมมองการลงทุนจาก CIO ประจำเดือนเมษายน

18 เม.ย. | Ray Farris , Vis Nayar

เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างชัดเจน ขณะที่ความเสี่ยงของภาวะถดถอยก็เพิ่มขึ้นอย่า ...

ปรับตัวรับมือผลกระทบ
จากภาษีศุลกากรสหรัฐฯ

in insights

กองทุนรวมผสม

ปรับตัวรับมือผลกระทบ จากภาษีศุลกากรสหรัฐฯ

04 เม.ย.

เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่จากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าของสหรัฐอเมริก ...

มุมมองการลงทุนจาก CIO ประจำเดือนมีนาคม

in insights

กองทุนรวมผสม

มุมมองการลงทุนจาก CIO ประจำเดือนมีนาคม

15 มี.ค. | Ray Farris , Vis Nayar

ตลาดกำลังสะท้อนถึงผลกระทบจากสงครามภาษีของทรัมป์ต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งชี้ ...

จีนเปลี่ยนทิศทางนโยบาย มุ่งสู่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

in insights

กองทุนรวมผสม

จีนเปลี่ยนทิศทางนโยบาย มุ่งสู่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

12 มี.ค.

เราเชื่อว่าการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติครั้งล่าสุดของจีน ได้ส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงใ ...

การประกาศมาตรการภาษีของสหรัฐ และความท้าทายต่อ “US Exceptionalism”

in insights

กองทุนรวมผสม

การประกาศมาตรการภาษีของสหรัฐ และความท้าทายต่อ “US Exceptionalism”

07 มี.ค.

ในความเคลื่อนไหวล่าสุดของตลาดและการประกาศมาตรการภาษีของสหรัฐ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเ ...

มุมมองการลงทุนจาก CIO ประจำเดือนกุมภาพันธ์

in insights

กองทุนรวมผสม

มุมมองการลงทุนจาก CIO ประจำเดือนกุมภาพันธ์

18 ก.พ. | Ray Farris , Vis Nayar

แม้จะมีความไม่แน่นอนจากมาตรการภาษี แต่ผลประกอบการที่ออกมาดีกว่าคาดได้ช่วยให้ผลตอบแทนใน ...

เฟด : บอกฉันหน่อยว่าคุณอยากลดดอกเบี้ย… ก็แค่ไม่พูดออกมาดังๆ

in insights

เฟด : บอกฉันหน่อยว่าคุณอยากลดดอกเบี้ย… ก็แค่ไม่พูดออกมาดังๆ

11 ก.พ.

เฟดยังคงดอกเบี้ยไว้ที่เดิม แต่จับตาสถานการณ์การว่างงานอย่างใกล้ชิด แถลงการณ์การประชุม ...

มุมมองการลงทุนจาก CIO
ประจำเดือนมกราคม

in insights

กองทุนรวมผสม

มุมมองการลงทุนจาก CIO ประจำเดือนมกราคม

17 ม.ค. | Ray Farris , Vis Nayar

การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง แต่เผชิญกับความไม่แน่นอนด้านนโยบาย โดยเฉพาะเรื ...

มุมมองการลงทุนจาก CIO ประจำเดือนธันวาคม

in insights

กองทุนรวมผสม

มุมมองการลงทุนจาก CIO ประจำเดือนธันวาคม

23 ธ.ค. | Vis Nayar

ข้อมูลที่ออกมาไม่สอดคล้องกันและความกังวลต่อการเติบโตของจีนกำลังถูกลดแรงกดดันลงด้วยมาตร ...

ข้อมูล คำแนะนำบทวิเคราะห์ และการแสดงความเห็นต่างๆ ที่ปรากฎอยู่ในเอกสารฉบับนี้ ได้จัดทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่ได้รับมาจาก แหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้และให้ความเห็นตามหลักวิชาการเท่านั้นโดยไม่มุ่งหมายให้ถือเป็นการชักชวนหรือชี้นำให้ซื้อ และ/หรือขายผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนประเภทต่างๆ ตามที่ปรากฎในเอกสารฉบับนี้ และไม่ถือเป็นการให้คำปรึกษาหรือคำแนะนำเกี่ยวกับการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนของบริษัทต่างๆ ตามที่ระบุหรือถูกกล่าวถึงไว้ในเอกสารฉบับนี้แต่อย่างใด ทั้งนี้ทีมงานไม่อาจยืนยันและรับรองความครบถ้วนสมบูรณ์หรือถูกต้องของข้อมูลดังกล่าวข้างต้นได้ และไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม ทีมงานไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายในรายได้ หรือประโยชน์ใดๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อมที่เกิดขึ้นจากการนำ ข้อมูล ข้อความ ความเห็น และ/หรือบทสรุปต่างๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ไปใช้ไม่ว่ากรณีใดๆ

ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารฉบับนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของทีมผู้เขียน มิได้เป็นความคิดเห็นอย่างเป็นทางการของ บลจ. อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ดังนั้น บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จึงไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น ทั้งนี้เอกสารควรใช้คู่กับหนังสือชี้ชวน

การลงทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงในการลงทุน ผู้ถือหน่วยลงทุนอาจได้รับเงินลงทุนมากกว่าหรือน้อยกว่าการลงทุนเริ่มแรกก็ได้ และอาจไม่ได้รับชำระเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุนภายในระยะเวลาที่กำหนดหรืออาจไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ตามที่มีคำสั่งไว้

แม้ว่ากองทุนรวมตลาดเงินลงทุนได้เฉพาะทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่มีโอกาสขาดทุนได้ การลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตลาดเงินไม่ใช่การฝากเงิน และมีความเสี่ยงจากการลงทุนซึ่งผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวน